การทำเกษตรกรรม  ถือเป็นอาชีพที่มีมากที่สุดในประเทศไทย จากข้อมูลของ สำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ผู้ที่ทำอาชีพเกษตรกรรม มีมากที่สุดในบรรดาผู้ที่ทำงานอาชีพอื่นๆ  ถ้านึกถึงการทำเกษตรกรรมในประเทศไทย    คงหนีไม่พ้น   “การทำนา”  ซึ่งเป็นอาชีพที่มีความสำคัญต่อประเทศไทยอาชีพหนึ่ง แต่การทำเกษตรกรรม หรือ การทำนาปลูกข้าวในปัจจุบันยังมีการนำเข้าของปุ๋ยเคมีที่มีมูลค่าพุ่งสูงขึ้นมากกว่าหมื่นล้านบาทเนื่องจากสงครามระหว่างรัสเซีย ยูเครน และชาติพันธมิตรต่างๆ ที่พากัน คว่ำบาตรรัสเซีย รัสเซียจึงระงับการส่งออกปุ๋ยทำให้กระทบต้นทุนการเพาะปลูกไปทั่วโลก เพราะ รัสเซียเป็นประเทศที่ส่งออกแร่ธาตุต่างๆที่ใช้ผลิตปุ๋ยรายใหญ่ของโลก ร่วมกับสถานการณ์ในปัจจุบันทำให้การขนส่งติดขัด ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น นั่นทำให้ต้นทุนปุ๋ยมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย

         ดังนั้น เราจะใช้ปุ๋ยเคมีที่แสนแพงอยู่ทำไม ในเมื่อเรามีปุ๋ยชีวอินทรีย์ที่มีคุณภาพ ไร้สารเคมี ดีต่อสิ่งแวดล้อม และ สุขภาพ อย่าง “ปุ๋ยชีวอินทรีย์ ทีพีไอ” ที่เป็นทางเลือกที่ดีที่เกษตรกรไทยสามารถนำไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพได้อย่างดีเยี่ยม เพราะคิดค้นมาเพื่อเกษตรกร สามารถฟื้นฟูดิน และเพิ่มธาตุอาหารพืชแบบปราศจากสารเคมี และวิธีการใช้งานก็ง่ายอีกด้วย

         วันนี้ทีพีไอจะมา ขอเสนอ How to การให้ปุ๋ยแก่ข้าว ฉบับอินทรีย์กับ ทีพีไอ 4 Step

Stepที่ 1 ตรวจสอบค่า pH ในดินก่อนทุกครั้ง เพราะค่า pH ในดินที่ดีจะทำให้ธาตุอาหารละลายได้ดี พืชก็จะนำธาตุอาหารเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แนะนำให้ใช้สารปรับปรุงดิน ทีพีไอ ดังนี้
           - pH ต่ำกว่า 6.0 ใช้โดโลไมท์ 500
           - pH ต่ำกว่า 5.0 ใช้สารปรับปรุงคุณภาพดิน pH11+
           - pH ต่ำกว่า 4.0 ใช้สารปรับปรุงคุณภาพดิน pH12

Stepที่ 2 เมื่อมีค่า pH ในดินที่มีความเหมาะสมแล้ว ก็มาเตรียมหมักตอซัง แช่เมล็ดพันธุ์  และ เตรียมดินก่อนหว่านโดยการ
หมักตอซัง ใช้ปุ๋ยชีวอินทรีย์ ฮมัคส์ 10-15 ลิตร/ไร่ ใส่ในช่วงปล่อยน้ำเข้านา จากนั้นหมักทิ้งไว้ 14 วัน เพื่อย่อยเมล็ดวัชพืช และเพิ่มธาตุอาหารในแปลง
แช่เมล็ดพันธุ์ ใช้ปุ๋ยชีวอินทรีย์ โกร ออร์แกนิค 1 ลิตร ผสมน้ำ 500 ลิตร แช่เมล็ดข้าวได้ 250-300 กก. (หว่านได้ 10 ไร่) แช่ไว้ 1 คืน เพื่อกระตุ้นการงอก
เตรียมดินก่อนหว่าน (อัตราส่วนทั้งหมด ต่อพื้นที่ 1 ไร่)
           - ปุ๋ยถ้ำค้างคาว 50 กก.
           - โดโลไมท์ 500  25 กก.
           - สารปรับปรุงดิน SILICA + กรดซิลิคอน (เม็ด)  25 กก.
           - ปุ๋ยชีวอินทรีย์ ฮมัคส์ (เขียว) 5 ลิตร
           - น้ำส้มควันไม้ 1 ลิตร
ผสมกันคลุกเคล้าให้ทั่ว แล้วหว่านลงดิน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงต้านทานโรค

Stepที่ 3 หลังจากหว่าน เมื่อข้าวอายุ 20-40 วัน ก็ให้ปุ๋ยทีพีไอเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต การแตกกอ สร้างรวง
            - ปุ๋ยชีวอินทรีย์ โกร ออแกนิค (ม่วง) 100 ซีซี
            - น้ำส้มควันไม้ 100 ซีซี
            - ต่อน้ำ 20 ลิตร (ถัง)
อัตราส่วนทั้งหมด  ใช้ 2 ถัง  ต่อพื้นที่ 1 ไร่
ผสมให้เข้ากันแล้วฉีดพ่นทางใบ ทุกๆ 5-7 วัน
            -  เมี่ออายุ 60 วัน หว่านปุ๋ยเม็ด/ผง ถ้ำค้างคาว 50 กก.ต่อไร่ ช่วยให้ข้าวตั้งท้อง ออกรวงได้ดี ผลผลิตเพิ่มขึ้น

Stepที่ 4 หลังข้าวติดรวง ก็ให้ปุ๋ยเพื่อเพิ่มน้ำหนัก และทำให้รสชาติดีขึ้นโดยใช้
             -  ปุ๋ยชีวอินทรีย์  โกร ออแกนิค (ม่วง) (สูตรบำรุงผล เพิ่มความหวาน)  100 ซีซี
             -  น้ำส้มควันไม้ 100 ซีซี
             -  ต่อน้ำ 20 ลิตร  (ถัง)
      อัตราส่วนทั้งหมด ใช้ 2 ถัง ต่อพื้นที่ 1 ไร่ ผสมกันแล้วฉีดพ่นทุกๆ 5-7 วัน เพียงเท่านี้ก็รอเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ดี และ มีคุณภาพได้เลย

         การใช้ปุ๋ยชีวอินทรีย์ ทีพีไอ พลิกวิถีชีวิตเกษตรกรได้ครบทุกด้านเปรียบเทียบ กับการใช้ปุ๋ยเคมีทั่วไปให้ ดูกันแบบชัดๆ

        เพียงแค่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ ทีพีไอ ก็จะทำให้วิถีชีวิตของชาวนาไทยดีขึ้น ไม่เพียงแต่ชีวิตของชาวนาเท่านั้น แต่จะทำให้สภาพแวดล้อม ระบบนิเวศ ของเราไร้สารเคมี ปลูกพืชอะไรก็ได้คุณภาพ อนาคตการเกษตรไทยก็จะเป็นการเกษตรอินทรีย์ ลดการใช้สารเคมีลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณค่า และยั่งยืน                                          
#ทีพีไอ #เราสร้างอนาคต  #ปุ๋ยชีวอินทรีย์ #ปุ๋ยทีพีไอ #รักษ์โลก

ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://bit.ly/3ax8yNl
https://marketeeronline.co/archives/254840
https://bit.ly/3uFacmQ